ผู้เขียน: kapongpang

  • 10 เคล็ดลับทำอย่างไรให้ “งานไม่ประจำ ทำเงินกว่า”

    10 เคล็ดลับทำอย่างไรให้ “งานไม่ประจำ ทำเงินกว่า”
    โดย บอย วิสูตร แสงอรุณเลิศ

    1. ทำงานประจำให้ดีเสียก่อน
    ถ้ามีคนอื่นควบคุมแล้วยังทำงานได้ไม่ดี
    อย่าหวังจะออกมาควบคุมตัวเอง ทำงานประจำต่อไปน่ะดีแล้ว

    2. รู้จักสร้าง Connection ตั้งแต่ยังทำงานประจำ
    ผูกมิตรกับลูกค้า สร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง
    วันนึงเมื่อออกมาทำเอง ลูกค้าที่รักเราจะตามมาใช้บริการ

    3. อย่าวู่วามด้วยการลาออกทันที
    แต่จงเอาเวลาว่างไปสร้างงานไม่ประจำ
    จนวันที่ทำเงินกว่า จึงค่อยตัดสินใจอีกที
    (แนะนำว่าควรทำเงินกว่า 3 เท่าขึ้นไป)

    4. อย่าโลกสวย ชีวิตต้องมีส่วนเผื่อความปลอดภัยด้วย
    เช่น มีเงินออมที่อยู่ได้เป็นปี แม้ไม่มีงานทำ
    เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ อิสรภาพกับความมั่นคงมันไม่ค่อยถูกกัน
    และเวลาไม่มีเงิน สมองมันจะคิดอะไรไม่ค่อยออก

    5. งานไม่ประจำที่เลือก ขอให้เป็นงานที่รักและทำเงินกว่าเท่านั้น
    คนส่วนใหญ่หนีความน่าเบื่อจากงานประจำมา
    แล้วจะหนีเสือปะจระเข้ทำไม
    ที่สำคัญเราจะยอมแพ้ง่าย
    ถ้าไปทำงานที่เราไม่รักแถมเงินน้อยกว่าอีก
    จำไว้ว่า ไปทั้งทีต้องดีกว่าเดิม

    6. ขอให้งานไม่ประจำที่เราเลือก ไม่ใช่งานที่เอาเวลาไปแลก
    เราเอาเวลาไปแลกในงานประจำมาพอแล้ว
    จะออกมาทำงานหนักกว่าเดิมแบบไม่มีหยุดไปทำไม?
    จงสร้างงานที่ทำให้เรามีรายได้จากระบบ จากลิขสิทธิ์
    จากการใช้เวลาของคนอื่น จากการใช้เงินของคนอื่น

    7. หาลูกค้ารายแรกของเราให้เจอ
    ใครคือคนที่จะแจ้งเกิดเรา
    แล้วทำงานชิ้นนั้นให้เกินความคาดหมาย
    เพราะงานชิ้นแรกจะเป็นงานอ้างอิงของเราในงานถัดๆ มา

    8. อย่าหน้ามืดตามัว รับมันทุกงาน
    สำคัญคือการเลือก เลือกงานที่เสริมชื่อเสียงเราด้วย
    อย่ารับงานราคาถูกเกิน เพราะเราจะขึ้นราคาไม่ได้

    9. สร้างความแตกต่าง สร้างแบรนด์
    อย่าเป็นแค่คนทำงานไม่ประจำที่หาที่ไหนก็ได้
    ไม่อย่างนั้นจะต้องวิ่งหางานราคาถูกไปตลอดชีวิต

    10. กลับไปขอบคุณที่ทำงานประจำ
    ที่สร้างเสริมประสบการณ์ให้เรา
    ไม่มีเค้าวันนั้น ไม่มีเราวันนี้

    Credit : Boy’s Thought

  • จด ทะเบียนบริษัท แล้ว

    นั้งอ่านเอกสารเสร็จรอกรรมการเซ็นได้พรุ่งนี้วันนี้เซ็นไม่ได้ เพราะกลับบ้านวันนี้ไม่ได้มีนัด การเปิดบริษัทของผมนั้นมีประวัติความเป็นมาของงานของผมที่ยาวนานมากและผมก็เริ่มให้มันมากขึ้น ทำให้มากขึ้นไปเลื่อยๆ ปีหน้าจะมาดูกันว่าจะเป็นอย่างไรเกี่ยวกับ พระนครซอฟต์ จำกัด

    รูปภาพ

  • คำคมประจำสัปดาห์ที่ 1 ตุลาคม 2556

    ถ้ากลัวก็จงหยุดซะ ไม่ต้องทำ

    อยากจะดังก็ต้องเหนื่อยหน่อย อยากจะรวยก็ต้องขยัน

    อยากจะให้คนรักก็ต้องรู้จักก้มหัวสักหน่วย

    คีรี กาญจนพาสน์

    (ผู้ก่อตั้ง บริษัท บีทีเอสกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด มหาชน)

  • ความมั่นคงของงานราชการ และความฝันที่ต้องทำ

    ระบบราชการวันนี้คุณแน่ใจแล้วเหรอครับว่าอยากได้ความมั่นคง เพื่อแลกกับความฝันที่อยากทำมาทั้งชีวิตของคุณ

    วันนี้หัวหน้างานผมเรียกผมเข้าไปคุยเรื่องอัตราบรรจุของตำแหน่งในหน่วยสารสนเทศ ในตำแหน่งนักวิชาการคอมพิวเตอร์ ในหัวผมกลับไปคิดทันทีที่ผมได้ยินนั้น (เห้ย! ตูกำลังจะออกไปทำความฝันของตูแล้วนะ) ยังไงก็จะไม่บรรจุ เพราะอะไรนะหรอครับ ผมยอมอดตายเพื่อให้ความฝันของผมได้คงมือทำ แค่ผมได้ลงมือทำสักนิดในชีวิตผม ผมก็จะดีใจมากที่ได้ทำมันและจะไม่เสียที่ตัดสินใจแบบนี้

    น้องและพี่บางคนที่ผมคุยด้วยกับเรื่องๆนี้นั้น บอกกับผมว่าทำไมไม่บรรจุแล้วเราก็ทำงานส่วนตัวไปด้วยละ ผมก็จึงกลับมาคิดว่าความเป็นจริงผมต้องการแบบนั้นจริงๆนะหรอ หรือผมแค่อยากอยู่เพื่อความมั่นคงหรืออยากออกไปทำงานของเราจริงหรือเปล่านะ เมื่อกลับมาบ้านและซักผ้าไปด้วยนะ ผมก็นึกถึงสิ่นที่ต้องทำในเดือนๆนี้นั้น ผมจะต้องกลับไปหาตาในงานออกพรรษานี้ และผมก็ยังจำได้อีกว่าคุณตาผมได้บอกกับผมว่าเมื่อซักผ้าเราก็ควรทบทวนความจำเราเสมอๆ มันก็แปลกดีนะที่ภาพต่างๆของผมย้อนกลับมา

    เข้าเรื่องบ้างดีกว่า ลองเอาสองสิ่งมาเปรี่ยบเทียบกันว่าข้อดีข้อเสีย และจุดแข็งของแต่ละสิ่งคืออะไร

    งานราชการข้อดี

    1. มีความมั่นคง มหาลัยคงไม่เจ๋งหรอก
    2. มีเงินเดือนและตำแหน่งที่มีหน้ามีตา เหรอ
    3. มีเวลาว่างทำงานนอกเยอะ จริง
    4. มีเงินกู้สำหรับซื้อบ้าน และ เรียนต่อ

    งานราชการข้อเสีย

    1. เลื่อยๆ ไม่มีอะไรตื่นเต้นแล้ว
    2. ความสามารถลดลง หรือเปล่า
    3. เงินเดือนน้อย
    4. อยากเป็นอาจารย์ไม่ได้ หรือยาก

    ความฝันข้อดี

    1. ฝันในชีวิตต้องทำ ข้อดีหรือเปล่าไม่รู้
    2. เงินดีกว่า สบายหรือเปล่า ไม่นะ
    3. ได้เป็นนายตัวเอง
    4. มีบริษัทที่อยากมีและทำมัน

    ความฝันข้อเสีย

    1. อาจเหนื่อยหน่อย
    2. อดหยาก เหรอ ความสามารถมีกลัวอะไร
    3. เงินอาจขาดช่วง
  • เที่ยวพัทยากับโรงแรม ดุสิตธานี

    IMG_0306 IMG_0304 IMG_0303 IMG_0302 IMG_0300 IMG_0349 IMG_0348 IMG_0347  IMG_0345 IMG_0322 IMG_0321 IMG_0320 IMG_0319 IMG_0318 IMG_0317 IMG_0316 IMG_0315 IMG_0314 IMG_0312 IMG_0311 IMG_0305

    บรรยากาศไม่ต้องพูดถึงเลยครับ การเข้าอยู่สบายมากเลยครับ

  • บันทึกการเขียน Class Store Procedure ไว้ใช้งานเอง Function Add

    เอาเข้าจริงๆผมก็ยังไม่เข้าใจเท่าไรกับเรื่องของ Store Procedure สักเท่าไรนะครับ Code ต่อไปนี้เป็นการเขียนของผมเองและดึงการใช้งานหลายๆอย่างที่เป็นประสบการณ์มาใช้งาน และจำลองการใช้งานของ Store Procedure เขาว่ากันว่ามันใช้งานได้รวดเร็ว ง่าย อะไรประมาณนั้นเดียวมาลองดูกันครับ

    [code language=”php”][/code]
    $db->add_db(TB_NEWS,array(
    “category”=>”$_POST[CATEGORY]”,
    “topic”=>””.addslashes(htmlspecialchars($_POST[TOPIC])).””,
    “headline”=>””.addslashes(htmlspecialchars($_POST[HEADLINE])).””,
    “posted”=>”$_SESSION[admin_user]”,
    “post_date”=>””.TIMESTAMP.””,
    “update_date”=>””.TIMESTAMP.””,
    “enable_comment”=>”$_POST[ENABLE_COMMENT]”
    ));

  • การเข้าซื้อสินทรัพย์ (ร้านค้า) ดั่ง Microsoft เข้าซื้อ Nokia (7.2พันล้าน กับ 7.3หมื่นบาท)

    ความแตกต่างของตัวเม็ดเงินนั้นไม่ใช่สารสำคัญอะไร แต่การแนะนำของผมนั้นจะบอกถึงความสำคัญในการเข้าซื้อสินทรัพย์ต่างๆเพื่อให้ตัวเราเองนั้นได้โตขึ้นและมีความมั่นคงในทางด้านการเงินนั้นเองครับ

    เมื่อเราตัดสินใจในการเข้าซื้ออะไรสักอย่างนั้นมันมักจะมีข้อสงใสในตัวเราเสมอเพราะการทำเงินให้เราได้ไหม ผลประกอบการของมันนั้นจะมีไหมต้นทุนในการทำเงินเท่าไรต่างๆอีกมากมายที่เราควรคิดและสิ่งต่างๆที่เรียกว่าสินทรัพย์นั้นก็ควรที่จะทำเงินให้เราได้เช่นกัน

    นี้อาจเป็นอีกหนึ่งบทเรียนของผมในการเข้าซื้อหุ้นร้านค้า หรือร้านขายของในหอพักบอกตรงๆมันไม่ใช่เรื่องสนุกอะไรต่อการทำธุรกิจนี้เพราะยอดการขายของผมนั้นไม่ได้เป็นไปอย่างที่ผมคิดเท่าไร ก่อนหน้านี้ผมคิดไว้ที่มูลค้าแค่ 5หมื่นบาทหรือ 6 หมื่นบาทเท่านั้นไม่เกินนี้ เพราะการทำเงินของมันนั้นยังไม่มีให้ผมเห็นเป็นตัวเม็ดเงินเต็มๆจริงๆสักเท่าไร แต่หุ้นส่วนเสนอมาที่ 75,000 ต่อเหลือ 72,500

    ต่อการนั้นเราจะมาดูกันว่ารายรับเราจะมีมากขึ้นหรือเปล่านะ ^__^

  • การโดนยกเลิกงาน ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่แรงบันดาใจอย่างหมดไป เพราะการสะดุดเพียงครั้งเดียว

    Canceled

    การโดนยกเลิกงานมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับผม เพราะก่อนหน้านี้ที่ทำงานเกี่ยวกับเว็บไซต์และรับเขียน PHP นั้นโดนยกเลิกงานกลางทางเป็นประจำ ทั้งที่รับมาคุยงานกันจบไปครึ่งหนึ่งแล้วและก็ยกเลิกก็มี แต่เรานั้นจะมีวิธีป้องกันอย่างไรไม่ให้งานที่เรากำลังดำเนินไปกับทีมงานนั้นสะดุดเพราะลูกค้ายกเลิกจ้างงานกับเรา

    ทีมนั้นมีความสำคัญกับงานและผลงานที่ออกมาสำเร็จไปอย่างดี แต่ถ้าคุยเป็นคนที่รับงานมีนั้งทำคนเดียวแล้วการป้องกันการยกเลิกงานที่ทำไปแล้วหรือกำลังดำเนินการอยู่นั้นจะทำได้อย่างไร ผมสรุปหัวใจหลักๆไว้และแบ่งมันออกเป็นการทำงานแบบเดียวและแบบทีมงานนะครับ

    1. มัดจำเป็นเรื่องสำคัญ

    การป้องกันการถูกยกเลิกงานแบบเดียว (ทำคนเดียว)

    เมื่อเรารับงานจากลูกค้าและคุยเรื่องรายละเอียดกันมาเรียบร้อยเป็นที่เข้าใจกันเป็นอย่างดี ก่อนที่ท่านจะลงมือทำอะไรลงไปนั้นควรจะมีมัดจำไว้สัก 25 % ของงานแม้กระทั่งเป็นคนรู้จักกันก็ตาม เพราะการทำงานหรือการลงมือทำไปแล้วนั้น มันไม่สามารถเอาอะไรย้อนกับมาได้เลยเมื่อลงมือทำไปแล้ว เสียงทั้งเวลาหัวสมอง แรงกายที่เสียไปกับตัวงานนั้นๆ ถ้าคุณถูกยกเลิกงานเมื่อทำไปแล้วอย่างน้อยก็มีค่าแรงในการดำเนินงานก่อนจบครึ่งหนึ่งของงาน หรือการแบ่งงานจ่างเป็นสเตปๆก็ได้เช่น

    1. จ่ายก่อนเริ่มงาน 25%

    2. จบงานครึ่งหนึ่ง  จ่าย 50 %

    3. จบงานเสร็จ จ่าย 25 %

    การจ่ายแบบนี้เป็นการจ่ายสเตปที่สวยสำหรับเราและลูกค้าครับ เพราะการยกเลิกงานเมื่อเราออกแบบและดำเนินการไปแล้ว 25 % แล้วยกเลิกเราก็ยังมีเงินค่าแรงอยู่ และเมื่อจบงานครึ่งหนึ่งแล้วรับ 50% ก่อนจบงานครึ่งหลังนั้นเพราะว่า งานลง Coding ลงไปแล้วนั้นจะเหนื่อยสำหรับเรามากขึ้นการยกเลิกงานนะตอนนี้จะทำให้เราได้ 75 % และสามารถนำงานหรือระบบที่ได้มานั้นไปขายต่อได้ หรือก็คุ้มกับค่าเหนื่อยของเราครับ 25% หลังมายกเลิกก็ยังได้ 75 % ที่ผ่านมาเพราะเหลืองานในส่วนของการแก้ไขหรือรายละเอียดสุดท้ายเท่านั้นครับ

    การป้องกันการถูกยกเลิกงานแบบทีมงาน

    การทำงานเป็นทีมนั้นผมหมายถึงงานที่เริ่ม 2 คนขึ้นไป เพราะเราอาจจะเก่งในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเช่นการออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ หรือการเขียนเว็บไซต์ต่างๆที่ลูกค้าต้องการ เพราะนั้นเราจะต้องเก็บเงินมากกว่าและถ้าเราเป็นผู้รับงาน ไม่ให้เสียทั้งสองฝ่ายนั้นเราควรรับเงิน 50 % เพราะเราเป็นผู้ติดต่องานและเราต้องจ่ายเงินการออกแบบให้กับทีมงานไว้อีกด้วยครับ สามารถแบ่งได้ดังนี้ครับ

    1. จ่ายก่อนเริ่มงาน 50 % (ต้องชี้แจงงานให้ลูกค้าได้รับทราพ เพราะอะไรทำไมถึงต้องเก็บ 50 % ก่อนเริ่มงาน)

    2. เสร็จงานครึ่งหนึ่งควรเก็บอีก 25 % ก่อนเริ่ม Code ตัวเว็บไซต์

    3. เมื่อเสร็จงานอีก 25%

    การเก็บแบบนี้เป็นการเก็บแบบเอาใจทีมงานและต้องให้ลูกค้าเข้าใจในส่วนนี้ด้วยว่าทำไมต้องเก็บครึ่งหนึ่งก่อนนะครับอาจจะให้ลูกค้าไม่ไว้ใจเราได้ แต่มันก็ดีทั้งสองผ่านเช่น เมื่อลูกค้ายกเลิกงานเรายังมีตังจ่ายให้ทีมงานและจ่ายค่าแรงเราอีกด้วยครับ

    2. การคุยรายละเอียดให้จบก่อนเริ่มงาน

    เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญก่อนมั่นจำงานด้วยซ้ำไปครับ เพราะการตกลงรายละเอียดงานนั้นสำคัญในตอนออกแบบงานและการเขียน Code นั้นเองครับเพราะถ้าเราเริ่มงาน หรือ ทีมงานเริ่มงานไปแล้วนั้นการยกเลิกงานกลางทางแบบนี้มีปัญหาแน่ๆ ถึงแม้ไม่ได้ยกเลิกงานแต่เปลี่ยนความต้องการใหม่นั้นจะทำให้เราต้องเปลี่ยนทั้งโครงสร้างได้เลย และเป็นที่มาของการยกเลิกงานนั้นเองครับ

    3. ตกลงราคากันให้ดีก่อน ทั้งทีมงานและผู้ว่าจ้าง

    การตกลงราคากันก่อนเริ่มงานหรือมัดจำงานนั้นเป็นเรื่องที่เราควรคุยเป็นอันดับแรงๆเลยก่อนจะทัดจำ หรือคุยรายละเอียดนะครับ เพราะการคุยรายละเอียดงานนั้นการเป็นฟรีแลนซ์นั้นงานที่คุยอยู่อาจไม่ใช้งานของคุณก็ได้เพราะคุณสมบัญในตัวคุณหรืออะไรก็แล้วแต่ การได้รู้ยอดเงินในการทำนั้นมาก่อนแล้วคุณสามารถโอนงานนั้นๆให้กับทีมหรือคนอื่นๆที่ตรวต่อคุณสมบัญของงานก่อนก็ได้นะครับ งงหรือเปล่าเอยในส่วนนี้สรุปง่ายๆนั้นก็คือ

    เราเป็น Sell รู้เรื่องตัวราคา รู้ว่าใครทำได้ในราคาเท่าไร เรารับอยู่ที่เท่าไร สามารถกำหนดความสามารถในตัวคุณที่คุณไม่ทำเพราะยอดน้อยไปในตัวงาน จำโยนให้ท่านอื่นๆทำนั้นเองครับ

    ข้อห้าม ห้ามคอนแทคงานเองเพราะคุยจะเหนื่อยเปล่าและการตัดหัวคิวนั้นจะทำให้คุยผิดใจกับคนที่คุณมอบงานให้นะครับ

    ดังนั้นสรุปง่ายๆได้ 3 ข้อ ก่อนจะเริ่มงานอย่างไรก็คิดวิเคราะให้ดีก่อนรับงาน หรือความสามารถตัวเองด้วยนะครับและการโยนงานให้คนอื่นๆก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะครับ สุดท้ายนี้ข้อให้ทุกท่านมีอิสระในการทำงานของคุณครับ ^__^

  • วีดีโอสอนการใช้งาน Sublime Text 2 จาก Tust+

    ผมใช้งาน Sublime Text 2 มาสักพักแล้วครับ ตั้งแต่ผมเริ่มทำโปรเจคแต่ไม่รู้ว่าใช้อะไรได้อะไรได้ดีบ้างนอกจากที่รู้และเหมือนผมจะใช้งานมันไม่เต็มที่เท่าไรครับ เลยค้นหาและเจอที่ Tust+ ครับมาทั้งชุดเลยลองเข้าไปดูได้ที่ https://tutsplus.com/course/improve-workflow-in-sublime-text-2/

    รูปภาพ