กลยุทธ์นี้ยังใช้งานได้ดีอยู่สำหรับการขายแบบ offline หรือ online ก็ตามเพราะผู้บริโภคต่างๆนั้น ถูกวิเคราะกันมาแล้วว่าสินค้าที่ถูกตั้งราคาแบบทั้ง 5 แบบนี้จะมีผลต่อการซื้อสินเป็นอย่างมาก
หมวดหมู่: Startup
-
12 บทเรียนที่ Guy Kawasaki ได้รับจาก Steve Jobs
12 บทเรียนที่ Guy Kawasaki ได้รับจาก Steve Jobs
แม้จะนานแล้ว (ตั้งแต่ปี 2011) แต่คิดว่ายังคงใช้ได้ดีอยู่ สรุปได้คร่าวๆดังนี้1. Expert, guru, นักวิเคราะห์ ไม่สามารถช่วยคุณคิดงานเจ๋งๆ ใหม่ๆ ได้
2. ลูกค้าบอกคุณไม่ได้หรอกว่า เค้าอยากได้อะไร
3. ไม่ใช่แค่พัฒนาให้ดีขึ้น แต่ต้องพัฒนาสิ่งใหม่ – Jump to the next curve
4. ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ ก่อให้เกิดผลงานที่สุดยอด
5. ดีไซน์คือสิ่งสำคัญ – Apple ได้พิสูจน์มาแล้วว่า การออกแบบสินค้าที่ดูดี เนียบ และคุณภาพคือหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าเลือกซื้อ
6. Presentation ต้อง font ใหญ่ กราฟฟิคใหญ่! เพื่อการสื่อสารที่ชัดเจน
7. ปรับเปลี่ยนแนวคิดคือสัญลักษณ์ของคนฉลาด – เมื่อเริ่มมี iPhone Steve บอกว่าจะไม่ให้มี app เพราะไม่รู้ว่าจะมีทำไม แล้วใครจะมาสร้าง แต่หลังจากนั้น 6เดือน แนวความคิดถูกเปลี่ยน และก่อให้เกิด appstore ที่ยิ่งใหญ่
8. “คุณค่า” ไม่ใช่ “ราคา” ราคาไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่คุณค่าของสินค้าต่างหากคือสิ่งสำคัญ แม้ใครจะว่า iPhone แพง iPad แพง แต่ถ้ามันมีคุณค่ามากพอ แม้ราคาแพง คนก็ซื้อ
9. คนเกรด A จะจ้างคนเกรด A+ มาทำงาน – จ้างคนที่เก่งกว่าเรามาทำงานเสมอ คนเกรด B จะจ้างคนเกรด C มาทำงาน และคนเกรด C จะจ้างคนเกรด D มาทำงาน เพราะกลัวว่า คนที่จ้างมาจะเก่งกว่าเรา ซึ่งนั่นไม่ใช่!
10. Real CEOs demo – แม้จะเป็น CEO แล้วแต่ Steve Jobs ก็ยังสามารถโชว์วิธีการใช้สินค้าของตัวเองได้
11. Real CEOs ship – สินค้าอาจจะยังไม่ต้อง perfect แต่ดีพอที่จะขายได้ อย่ามัวแต่ ทดลองและพัฒนา เพราะเราไม่ใช่บริษัท R&D
12. ลูกค้าในปัจจุบันมองหาสินค้าที่ unique และ มี value
-
4 วัน 4 คืน กับ 2 ระบบ 3 เว็บไซต์
PM เข้าทำกันยังไงไม่รู้แต่ต้องทำให้ทัน จัดการเวลาของตนได้อย่างไรตัดสิ่งที่ตัวเองทำแล้วจะเป็นอุปสรรคในการทำงานทั้งเรื่องดื่มหรือเรื่องเทียวออกไป
ก่อนอื่นเลยต้องสวัสดีกันนก่อนครับหายไปหลายวันกับการพัฒนาระบบฐานข้อมูลสำนักการพยาบาล และระบบเว็บไซต์การเรียนการสอนของอาจารย์ ป.เอก ท่านหนึ่งและเว็บไซต์ลูกค้าอีก 2 เว็บไซต์ที่เขาเร่งมาว่าต้องการให้เสร็จภายในวันศุกร์ที่ผ่านมา (แต่ที่จริงรับปากเขาไวตั้งแต่สิ้นเดือนที่ผ่านมาแล้ว) เลื่อนได้เพราะ Themes เว็บไซต์ 2 เว็บนั้นเสร็จแต่ข้อมูลที่ลูกค้าให้มานั้นยังไม่ครบ และ พร้อมการส่งให้แก้ไข design ระบบที่ส่งขึ้นไปให้ชมกัน (เพิ่มเติม…)
-
30บทเรียนแห่งความมั่งคั่งจากหนังสือ Secret of the Millionaire Mind (ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน)
30บทเรียนแห่งความมั่งคั่งจากหนังสือ Secret of the Millionaire Mind (ถอดรหัสลับสมองเงินล้าน)
1.ถ้าคุณอยากมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม คุณก็ต้องยอมเต็มใจยอมปล่อยวางวิธีคิด และการใช้ชีวิตแบบเดิมๆ แล้วนำวิธีคิดแบบใหม่เข้ามาสู่ชีวิต แล้วคุณจะประจักษ์ถึงผลที่ตามมาในที่สุด
2.โลกภายนอกของคุณเป็นเพียงเสียงสะท้อนของโลกภายใน เท่านั้น ถ้าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นนอกตัวคุณไม่ได้เป็นได้ด้วยดี นั่นเป็นเพราะสิ่งต่างๆ ภายในตัวคุณก็ไม่ได้เป็นไปด้วยดีเช่นเดียวกัน
3. ความคิดนำไปสู่ความรู้สึก ความรู้สึกนำไปสู่การกระทำ การกระทำนำไปสู่ผลลัพธ์
4.เงินเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับทุกเรื่องที่ต้องใช้เงิน ในขณะเดียวกัน มันก็ไม่มีความสำคัญแม่แต่นิดเดียว สำหรับทุกเรื่องที่ไม่ต้องใช้เงิน
5. เมื่อคุณบ่น คุณกำลังกลายร่างเป็น “แม่เหล็กดึงดูดความเลวร้าย” ที่มีชีวิต
6.จำไว้ว่าคุณเป็นผู้ลิขิตชะตาชีวิตทางการเงินของตัวคุณเอง ว่าจะมั่งคั่ง ถังแตก หรือมีฐานะในระดับใดก็ตาม
7.เหตุผลอันดับแรกที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้สิ่งที่ต้องการ ก็เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าตนเองต้องการอะไร
8.ถ้าคุณไม่มุ่งมั่นกับการสร้างฐานะอย่างเต็มตัว และสุดหัวใจ คุณก็จะไม่มีโอกาสร่ำรวย
9.การคิดเล็กและทำแต่เรื่องเล็กจะนำไปสู่การสิ้นเนื้อประดาตัว และความไม่พอใจในตนเอง ส่วนการคิดใหญ่ และทำการใหญ่จะนำไปสู่การมีพร้อมทั้งเงิน และความหมายในชีวิต คุณเลือกเอาได้ตามใจ!
10.ไม่มีทางที่โชค หรือสิ่งอื่นใดที่มีค่า จะมาถึงตัวคุณได้เลยถ้าคุณไม่ลงมือทำการใดๆ (เพื่อเตรียมตัวรับโชคหรือสิ่งนั้นๆ)
11. คนรวยให้ความสนใจกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ ส่วนคนจนให้ความสนใจกับสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการ
12.คนรวยมองเห็นโอกาส กระโจนใส่มัน และร่ำรวยยิ่งขึ้น แล้วคนจนล่ะ มัวทำอะไรอยู่? พวกเขาก็ยัง“เตรียมตัว”อยู่นะสิ!
13.คนรวยมักเป็นผู้นำ และผู้นำที่ยิ่งใหญ่ล้วนแต่เป็นนักโปรโมทที่ยอดเยี่ยม การเป็นผู้นำที่ย่อมมีผู้ตาม และผู้สนับสนุน นั่นหมายความว่า คุณต้องช่ำชองด้านการขาย การสร้างแรงบันดาลใจ และการจูงใจให้ผู้คนเชื่อในวิสัยทัศน์ของคุณ
14. ถ้าคุณเชื่อว่า สิ่งที่คุณมี สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างแท้จริง หน้าที่ของคุณ ก็คือ การบอกให้คนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้รับรู้ และวิธีนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณช่วยเหลือคนอื่นได้เท่านั้น แต่คุณยังจะร่ำรวยอีกด้วย!
15.เคล็ดลับสู่ความสำเร็จไม่ใช่การพยายามหลีกเลี่ยง ปัดหรือหันหลังให้กับปัญหา สิ่งที่คุณต้องทำ คือ การพัฒนาตนเองให้ยิ่งใหญ่เหนือกว่าทุกๆปัญหา
16.ถ้าคุณบอกว่าคุณมีค่า คุณก็มีค่า ถ้าคุณบอกว่าคุณไร้ค่า คุณก็ไร้ค่า ไม่ว่าอย่างไร คุณก็จะดำเนินชีวิตไปตามเรื่องราวที่คุณแต่งขึ้นเอง
17.คนจนแลกเวลากับเงิน กลยุทธ์นี้มีปัญหา เพราะเวลาของคุณมีอยู่อย่างจำกัด นั่นหมายความว่า คุณกำลังแหกกฎแห่งความมั่งคั่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งระบุว่า “อย่าให้มีเพดานจำกัดรายได้ของคุณ”
18.มาตรวัดความมั่งคั่งที่แท้จริงคือมูลค่าทรัพย์สิน ไม่ใช่รายได้จากการทำงาน
19.ถ้าคุณไม่ควบคุมเงินของคุณ มันก็จะควบคุมคุณ การจะควบคุมเงินของคุณ คุณต้องรู้จักบริหารเงิน
20. อิสรภาพทางการเงิน คือ ความสามารถที่จะดำเนินชีวิตในรูปแบบที่ต้องการโดยไม่ต้องทำงานหรือพึ่งพาคนอื่นในเรื่องเงิน
21.คุณจะมีอิสรภาพทางการเงินเมื่อรายได้งอกเงย (รายได้จากทรัพย์สินหรือธุรกิจที่ทำงานแทนคุณและสร้างรายได้ด้วยตัวของมันเอง) ของคุณมีจำนวนมากกว่ารายจ่าย
22.คนจนทำงานหนักและใช้เงินทั้งหมดที่มาหาได้ พวกเขาจึงต้องทำงานหนักตลอดไป ส่วนคนรวยทำงานหนัก สะสมเงิน และนำไปลงทุน พวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องทำงานหนักอีก
23. ความผิดพลาดอันยิ่งใหญ่ที่สุดของคนส่วนใหญ่ คือ การรอให้ความกลัวลดน้อยลงหรือจางหายไปก่อนจะเริ่มลงมือทำ(บางสิ่งบางอย่างไปสู่ความมั่งคั่ง) และคนเหล่านี้ก็มักลงเอยด้วยการนั่งรอตลอดไป
24. คนรวยและผู้ที่ประสบความสำเร็จก็มีความกลัว ความไม่แน่ใจ และความกังวลเช่นกัน เพียงแต่พวกเขาไม่ยอมปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านั้น มาหยุดยั้งตนเอง
25. ความสุขไม่ได้มาจากการใช้ชีวิตอย่างสบายๆไปวัน พร้อมๆกับนึกสงสัยตลอดเวลาว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตบ้าง แต่ความสุขเกิดจากการเติบโตตามอัตราการเติบโตที่ควรจะเป็นและการใช้ชีวิตด้วยศักยภาพสูงสุดของตัวเรา
26.การฝึกฝนและบริหารความคิดของคุณเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดที่คุณควรมีไว้ครองครอง เพื่อให้บรรลุความสุขและความสำเร็จ
27. น้อยคนนักจะรู้ว่า วิธีที่รวดเร็วที่สุดในการสร้าง และรักษาความมั่งคั่งเอาไว้ก็คือ การพัฒนาตัวคุณเอง เพื่อให้คุณเติบโตเป็นคนที่ “ประสบความสำเร็จ”
28. คนจน และชนชั้นกลางส่วนใหญ่เชื่อว่า “ถ้าฉันมีมากๆ ฉันก็จะสามารถทำในสิ่งที่ฉันต้องการ และเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้” ส่วนคนรวยเข้าใจว่า “ถ้าฉันกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ฉันจะสามารถทำในสิ่งที่ฉันจำเป็นต้องทำเพื่อให้มีสิ่งที่ฉันต้องการ รวมไปถึงจำนวนเงินมากๆด้วย”
29.คนรวยคือผู้เชี่ยวชาญในงานที่ตัวเองทำ ชนชั้นกลางคือพวกที่ทำงานของตัวเองได้ดีในระดับปานกลาง และคนจนคือพวกที่ทำงานของตัวเองไม่ได้เรื่องเลย
30.การจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้อย่างถาวรนั้น มันต้องเกิดขึ้นในระดับที่ลึกซึ้ง….เครือข่ายในสมองคุณต้องถูกสร้างขึ้นใหม่ นั่นหมายความว่าคุณต้องนำมันไปปฏิบัติจริง อย่าเพียงแต่อ่าน อย่าเพียงแต่พูดถึงมัน และอย่าเอาแต่คิด จงลงมือทำจริงๆ
-
การตลาดไม่ใช่เรื่องของ 4Ps
เห็นหัวข้อแล้วตกใจเล็กน้อยสำหรับเรื่องของการตลาด การตลาดไม่ใช่เรื่องของ 4Ps ความคิดสร้างสรรค์ การสร้างแบรนด์ โฆษณา ไม่ทั้งหมดนี้ แต่มันเป็นเรื่องของการทำอย่างไรให้…….. (เพิ่มเติม…)
-
ในยุค Gen Y คือคนรุ่น 1980-2000 คือนักเรียน นักศึกษา และวัยทำงาน 30 ต้นๆ ผลสำรวจออกมาว่า
a) 71% ตัดสินใจว่าชีวิตนี้ฉันจะต้องทำธุรกิจส่วนตัวให้ได้
b) 60% แพลนแล้วว่าจะออกมาเป็นนายตัวเองภายใน 2 ปีนี้แน่นอน
c) 38% บอกว่าหากมีโอกาสจะเลือก Join Startup Company เพื่อสร้างธุรกิจมากกว่าการเรียนต่อมหาวิทยาลัย หรือ ปริญญาโทสาเหตุของความต้องการเป็นนายตัวเอง
อันดับ 1 คือ อิสรภาพชีวิต
อันดับ 2 คือ อิสรภาพทางการงาน
อันดับ 3 คือ ศักยภาพของรายได้เงินไม่ใช่อันดับหนึ่ง แต่คืออิสรภาพชีวิตที่เป็นอันดับหนึ่ง
คัดลอกมาจาก
The CEO Blogger -
ข้อคิด 20 ประการสำหรับที่จะนำพาเรา Walk ไปข้างหน้า
ได้อ่านข้อคิดเกี่ยวกับการเดินไปข้างหน้าจากผู้พัฒนาเว็บแนวหน้าของประเทศไทย ต้นๆปีเราจะเห็น MD ต่างๆออกมาเขียนบล็อกเพื่อตั้งเป้าหมายหมดกับปีนี้หรือเรื่องตั้งเป้าหมายส่วนตัวให้กับตัวเองในปีนี้ และผมก็มีเช่นกัน
แต่เป้าหมายที่เขียนไว้ในบล็อกของแต่ละท่านหรือเขียนไว้ในแผนชีวิตของท่านนั้นโดยที่ไม่ได้นำมาแผยแพร่เลยก็ตาม สิ่งสำคัญมากที่สุดนั้นคือการ Walk
ข้อคิด 20 ประการสำหรับที่จะนำพาเรา Walk ไปข้างหน้า
- เมื่อวานไม่สามารถ กลับไปแก้ไขอะไรได้ จึงมีวันพรุ่งนี้ให้เราได้ทำสิ่งดีๆต่อไป
- คนเดียวเท่านั้นที่จะ ช่วยให้คุณผ่านทุกปัญหา ได้ คือ” ตัวคุณ”
- เรื่องวุ่นวายบนโลกมี อยู่ 2 อย่างเท่านั้น คือ “ไปหลงรัก” และ “ไปหลงเกลียด”
- ความสบายใจไม่ได้ เกิดจากทำทุกสิ่งให้ได้ดังใจ แต่เกิดจากใจที่ยอมรับว่าไม่มีอะไรที่จะได้ดังใจเราไปทั้งหมด
- ต่างคนต่างความคิด ต่างจิตต่างใจอย่าดูถูก ความคิดใคร
- อ่านหนังสือออกสำคัญ อ่านเหตุการณ์ออกสำคัญกว่า อ่านคนอื่นอออกสำคัญยิ่ง อ่านตนเองออก สำคัญที่สุด
- ถ้าคิดได้ให้ช่วยคิด ถ้าคิดไม่ได้ให้ช่วยทำถ้าทำไม่ได้ ให้ความร่วมมือ ถ้าร่วมมือไม่ได้ ให้กำลังใจ แม้ให้กำลังใจไม่ได้ ให้สงบนิ่ง
- ละได้ใจก็สะอาด วางได้ใจก็โล่ง ปลงได้ ใจก็เย็น อภัยได้ใจก็สงบ
- เงาจันทร์เกิดจาก ความนิ่งของน้ำฉันใด ปัญญาเกิดจากความนิ่งของใจฉันนั้น
- ไม่ใช่ความทุกข์ ที่ทำให้เราคิดมาก แต่เป็นเพราะเราคิดมากทำให้เกิดความทุกข์
- รู้จักให้รู้จักรับ รู้จักปรับรู้จักให้อภัย รู้จักแบ่งรู้จักได้ รู้จักแข็ง รู้จักคลาย ชีวิตจะเบาสบายและมี ความสุข
- หาที่สงบร้อยที่ ยังไม่ดีเท่าสงบที่ใจตน รู้จักคนร้อยคนไม่ดีเท่ารู้จักตนเพียงคนเดียว
- เมื่อมี จงรู้จักให้ เมื่อได้ จงรู้จักพอ เมื่อขอ จงรู้คุณค่า คนเราเกิดมาถึงเวลาก็ ต้องไป
- สิ่งที่ย้อนไม่ได้คือ เวลา สิ่งที่หนีไม่ได้คือ ความ ตาย สิ่งที่ชื้อไม่ได้คือชีวิต สิ่งที่มองไม่เห็นคือใจคน สิ่งที่ต้องอดทนคือใจตัวเอง
- ไฟไม่ได้ร้อน ถ้าเราไม่เอาตัวเข้าไป ใกล้ ทุกข์ใดๆก็ไม่ทำให้ เราหนักถ้าเราไม่เอาใจ เข้าไปแบก
- กำลังใจอาจหาได้จากคนรอบข้าง แต่ความเข้มแข็งเราต้องสร้างมันขึ้นเอง
- บางครั้งกำลังใจ นอกจากจะมีไว้ให้ใครๆ ก็ต้องเก็บไว้ให้ตัวเองด้วย
- เมื่อตัดสินใจที่จะ เดินไปข้างหน้า ก็อย่าหวั่นไหวกับปัญหาที่จะต้องพบเจอ
- คนมีปัญญา มักมองเห็นโอกาสในทุกๆปัญหา คนขาดปัญญา มักมองเห็นปัญหาในทุกๆโอกาส
- ทุกครั้งที่เราไม่เข้า ใจกัน ไม่ผิดที่จะโกรธ แต่ผิดที่เราไม่ขอโทษกัน
ที่มาของ 20 ข้อคิด : smallsweb.net
-
การยกเลิกงาน อะไรคือความผิดพลาดของตัวเรา
ก่อนอื่นๆเลย การเป็นหัวหน้าที่ดีและลูกทีมที่ดีไม่ควรกล่าวโทษใครทั้งสิ้นในเรื่องของการทำงานเป็นทีมแล้วนั้นยิ่งต้องใส่ใจกันเรื่องของความรู้สึก ถึงจะสนิดกันขนาดไหนก็แล้วแต่ (เพิ่มเติม…)